เมนู

โคตโม พุทฺโธ

ตตฺถ อมฺหากํ โพธิสตฺโต ทีปงฺกราทีนํ จตุวีสติยา พุทฺธานํ สนฺติเก อธิการํ กโรนฺโต กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺเขฺยยฺยานิ อาคโตฯ กสฺสปสฺส ปน ภควโต โอรภาเค ฐเปตฺวา อิมํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อญฺโญ พุทฺโธ นาม นตฺถิฯ อิติ ทีปงฺกราทีนํ จตุวีสติยา พุทฺธานํ สนฺติเก ลทฺธพฺยากรโณ ปน โพธิสตฺโต เยเนน –

‘‘มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;

ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา;

อฏฺฐธมฺมสโมธานา, อภินีหาโร สมิชฺฌตี’’ติฯ (พุ. วํ. 2.59) –

อิเม อฏฺฐ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหาเรน ‘‘หนฺท พุทฺธกเร ธมฺเม, วิจินามิ อิโต จิโต’’ติ อุสฺสาหํ กตฺวา ‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขิํ, ปฐมํ ทานปารมิ’’นฺติ ทานปารมิตาทโย พุทฺธการกธมฺมา ทิฏฺฐา, ปูเรนฺโตเยว ยาว เวสฺสนฺตรตฺตภาโว อาคมิฯ อาคจฺฉนฺโต จ เย เต กตาภินีหารานํ โพธิสตฺตานํ อานิสํสา สํวณฺณิตา –

‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนา, โพธิยา นิยตา นรา;

สํสรํ ทีฆมทฺธานํ, กปฺปโกฏิสเตหิปิฯ

‘‘อวีจิมฺหิ นุปฺปชฺชนฺติ, ตถา โลกนฺตเรสุ จ;

นิชฺฌามตณฺหา ขุปฺปิปาสา, น โหนฺติ กาลกญฺชิกาฯ

‘‘น โหนฺติ ขุทฺทกา ปาณา, อุปฺปชฺชนฺตาปิ ทุคฺคติํ;

ชายมานา มนุสฺเสสุ, ชจฺจนฺธา น ภวนฺติ เตฯ

‘‘โสตเวกลฺลตา นตฺถิ, น ภวนฺติ มูคปกฺขิกา;

อิตฺถิภาวํ น คจฺฉนฺติ, อุภโตพฺยญฺชนปณฺฑกาฯ

‘‘น ภวนฺติ ปริยาปนฺนา, โพธิยา นิยตา นรา;

มุตฺตา อานนฺตริเกหิ, สพฺพตฺถ สุทฺธโคจราฯ

‘‘มิจฺฉาทิฏฺฐิํ น เสวนฺติ, กมฺมกิริยทสฺสนา;

วสมานาปิ สคฺเคสุ, อสญฺญํ นุปปชฺชเรฯ

‘‘สุทฺธาวาเสสุ เทเวสุ, เหตุ นาม น วิชฺชติ;

เนกฺขมฺมนินฺนา สปฺปุริสา, วิสํยุตฺตา ภวาภเว;

จรนฺติ โลกตฺถจริยาโย, ปูเรนฺติ สพฺพปารมี’’ติฯ

เต อานิสํเส อธิคนฺตฺวาว อาคโตฯ ปารมิโย ปูเรนฺตสฺส จสฺส อกิตฺติพฺราหฺมณกาเล, สงฺขพฺราหฺมณกาเล, ธนญฺจยราชกาเล, มหาสุทสฺสนราชกาเล, มหาโควินฺทกาเล, นิมิมหาราชกาเล, จนฺทกุมารกาเล, วิสยฺหเสฏฺฐิกาเล, สิวิราชกาเล, เวสฺสนฺตรราชกาเลติ ทานปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิฯ เอกนฺเตน ปนสฺส สสปณฺฑิตชาตเก –

‘‘ภิกฺขาย อุปคตํ ทิสฺวา, สกตฺตานํ ปริจฺจชิํ;

ทาเนน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม ทานปารมี’’ติฯ (จริยา. 1.ตสฺสุทฺทาน) –

เอวํ อตฺตปริจฺจาคํ กโรนฺตสฺส ทานปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตาฯ ตถา สีลวนาคราชกาเล, จมฺเปยฺยนาคราชกาเล, ภูริทตฺตนาคราชกาเล, ฉทฺทนฺตนาคราชกาเล, ชยทฺทิสราชปุตฺตกาเล, อลีนสตฺตุกุมารกาเลติ สีลปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิฯ เอกนฺเตน ปนสฺส สงฺขปาลชาตเก –

‘‘สูเลหิ วิชฺฌยนฺโตปิ, โกฏฺฏิยนฺโตปิ สตฺติภิ;

โภชปุตฺเต น กุปฺปามิ, เอสา เม สีลปารมี’’ติฯ (จริยา. 2.91) –

เอวํ อตฺตปริจฺจาคํ กโรนฺตสฺส สีลปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตาฯ ตถา โสมนสฺสกุมารกาเล, หตฺถิปาลกุมารกาเล, อโยฆรปณฺฑิตกาเลติ มหารชฺชํ ปหาย เนกฺขมฺมปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิฯ เอกนฺเตน ปนสฺส จูฬสุตโสมชาตเก –

‘‘มหารชฺชํ หตฺถคตํ, เขฬปิณฺฑํว ฉฑฺฑยิํ;

จชโต น โหติ ลคฺคนํ, เอสา เม เนกฺขมฺมปารมี’’ติฯ –

เอวํ นิสฺสงฺคตาย รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขมนฺตสฺส เนกฺขมฺมปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตาฯ ตถา วิธุรปณฺฑิตกาเล, มหาโควินฺทปณฺฑิตกาเล, กุทฺทาลปณฺฑิตกาเล, อรกปณฺฑิตกาเล, โพธิปริพฺพาชกกาเล, มโหสธปณฺฑิตกาเลติ ปญฺญาปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิฯ เอกนฺเตน ปนสฺส สตฺตุภสฺตชาตเก เสนกปณฺฑิตกาเล –

‘‘ปญฺญาย วิจินนฺโตหํ, พฺราหฺมณํ โมจยิํ ทุขา;

ปญฺญาย เม สโม นตฺถิ, เอสา เม ปญฺญาปารมี’’ติฯ –

อนฺโตภสฺตคตํ สปฺปํ ทสฺเสนฺตสฺส ปญฺญาปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตาฯ ตถา วีริยปารมิตาทีนมฺปิ ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิฯ เอกนฺเตน ปนสฺส มหาชนกชาตเก –

‘‘อตีรทสฺสี ชลมชฺเฌ, หตา สพฺเพว มานุสา;

จิตฺตสฺส อญฺญถา นตฺถิ, เอสา เม วีริยปารมี’’ติฯ –

เอวํ มหาสมุทฺทํ ตรนฺตสฺส วีริยปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตาฯ ขนฺติวาทิชาตเก –

‘‘อเจตนํว โกฏฺเฏนฺเต, ติณฺเหน ผรสุนา มมํ;

กาสิราเช น กุปฺปามิ, เอสา เม ขนฺติปารมี’’ติฯ –

เอวํ อเจตนภาเวน วิย มหาทุกฺขํ อธิวาเสนฺตสฺส ขนฺติปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตาฯ มหาสุตโสมชาตเก –

‘‘สจฺจวาจํ อนุรกฺขนฺโต, จชิตฺวา มม ชีวิตํ;

โมเจสิํ เอกสตํ ขตฺติเย, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติฯ –

เอวํ ชีวิตํ จชิตฺวา สจฺจมนุรกฺขนฺตสฺส สจฺจปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตาฯ มูคปกฺขชาตเก –

‘‘มาตาปิตา น เม เทสฺสา, นปิ เทสฺสํ มหายสํ;

สพฺพญฺญุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา วตมธิฏฺฐหิ’’นฺติฯ (จริยา. 3.65) –

เอวํ ชีวิตมฺปิ จชิตฺวา วตํ อธิฏฺฐหนฺตสฺส อธิฏฺฐานปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตาฯ สุวณฺณสามชาตเก –

‘‘น มํ โกจิ อุตฺตสติ, นปิหํ ภายามิ กสฺสจิ;

เมตฺตาพเลนุปตฺถทฺโธ, รมามิ ปวเน ตทา’’ติฯ (จริยา. 3.113) –

เอวํ ชีวิตมฺปิ อโนโลเกตฺวา เมตฺตายนฺตสฺส เมตฺตาปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตาฯ โลมหํสชาตเก –

‘‘สุสาเน เสยฺยํ กปฺเปมิ, ฉวฏฺฐิกํ อุปนิธายหํ;

คามณฺฑลา อุปาคนฺตฺวา, รูปํ ทสฺเสนฺตินปฺปก’’นฺติฯ (จริยา. 3.119) –

เอวํ คามทารเกสุ นิฏฺฐุภนาทีหิ เจว มาลาคนฺธูปหาราทีหิ จ สุขทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺเตสุปิ อุเปกฺขํ อนติวตฺเตนฺตสฺส อุเปกฺขาปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตาฯ อยเมตฺถ สงฺเขโปฯ วิตฺถารโต ปเนส อตฺโถ จริยาปิฏกโต คเหตพฺโพติฯ เอวํ ปารมิโย ปูเรตฺวา เวสฺสนฺตรตฺตภาเว ฐิโต –

‘‘อเจตนายํ ปถวี, อวิญฺญาย สุขํ ทุขํ;

สาปิ ทานพลา มยฺหํ, สตฺตกฺขตฺตุํ ปกมฺปถา’’ติฯ (จริยา. 1.124) –

เอวํ มหาปถวิกมฺปนาทีนิ มหาปุญฺญานิ กริตฺวา อายุปริโยสาเน ตโต จุโต ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติฯ อิติ ทีปงฺกรปาทมูลโต ปฏฺฐาย ยาว อยํ ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติ, เอตฺตกํ ฐานํ ทูเรนิทานํ นามาติ เวทิตพฺพํฯ

ทูเรนิทานกถา นิฏฺฐิตาฯ

2. อวิทูเรนิทานกถา

ตุสิตปุเร วสนฺเตเยว ปน โพธิสตฺเต พุทฺธโกลาหลํ นาม อุทปาทิฯ โลกสฺมิญฺหิ ตีณิ โกลาหลานิ มหนฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ กปฺปโกลาหลํ, พุทฺธโกลาหลํ, จกฺกวตฺติโกลาหลนฺติฯ ตตฺถ ‘‘วสฺสสตสหสฺสจฺจเยน กปฺปุฏฺฐานํ ภวิสฺสตี’’ติ โลกพฺยูหา นาม กามาวจรเทวา มุตฺตสิรา วิกิณฺณเกสา รุทมุขา อสฺสูนิ หตฺเถหิ ปุญฺฉมานา รตฺตวตฺถนิวตฺถา อติวิย วิรูปเวสธาริโน หุตฺวา มนุสฺสปเถ วิจรนฺตา เอวํ อาโรเจนฺติ – ‘‘มาริสา, อิโต วสฺสสตสหสฺสจฺจเยน กปฺปุฏฺฐานํ ภวิสฺสติ, อยํ โลโก วินสฺสิสฺสติ, มหาสมุทฺโทปิ สุสฺสิสฺสติ, อยญฺจ มหาปถวี สิเนรุ จ ปพฺพตราชา อุฑฺฑยฺหิสฺสนฺติ วินสฺสิสฺสนฺติ, ยาว พฺรหฺมโลกา โลกวินาโส ภวิสฺสติ, เมตฺตํ มาริสา, ภาเวถ, กรุณํ, มุทิตํ, อุเปกฺขํ มาริสา, ภาเวถ, มาตรํ อุปฏฺฐหถ, ปิตรํ อุปฏฺฐหถ, กุเล เชฏฺฐาปจายิโน โหถา’’ติฯ อิทํ กปฺปโกลาหลํ นามฯ ‘‘วสฺสสหสฺสจฺจเยน ปน สพฺพุญฺญุพุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ โลกปาลเทวตา ‘‘อิโต, มาริสา, วสฺสสหสฺสจฺจเยน สพฺพญฺญุพุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อุคฺโฆเสนฺติโย อาหิณฺฑนฺติฯ อิทํ พุทฺธโกลาหลํ นามฯ ‘‘วสฺสสตสฺสจฺจเยน จกฺกวตฺติราชา อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ เทวตาโย ‘‘อิโต มาริสา วสฺสสตจฺจเยน จกฺกวตฺติราชา โลเก อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อุคฺโฆเสนฺติโย อาหิณฺฑนฺติฯ อิทํ จกฺกวตฺติโกลาหลํ นามฯ อิมานิ ตีณิ โกลาหลานิ มหนฺตานิ โหนฺติฯ

เตสุ พุทฺธโกลาหลสทฺทํ สุตฺวา สกลทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา เอกโต สนฺนิปติตฺวา ‘‘อสุโก นาม สตฺโต พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ ญตฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา อายาจนฺติฯ อายาจมานา จ ปุพฺพนิมิตฺเตสุ อุปฺปนฺเนสุ อายาจนฺติฯ ตทา ปน สพฺพาปิ ตา เอเกกจกฺกวาเฬ จาตุมหาราชสกฺกสุยามสนฺตุสิตสุนิมฺมิตวสวตฺติมหาพฺรหฺเมหิ สทฺธิํ เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปติตฺวา ตุสิตภวเน โพธิสตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มาริส, ตุมฺเหหิ ทส ปารมิโย ปูเรนฺเตหิ น สกฺกสมฺปตฺติํ, น มารพฺรหฺมจกฺกวตฺติสมฺปตฺติํ ปตฺเถนฺเตหิ ปูริตา, โลกนิตฺถรณตฺถาย ปน สพฺพญฺญุตํ ปตฺเถนฺเตหิ ปูริตา, โส โว ทานิ กาโล, มาริส, พุทฺธตฺตาย, สมโย, มาริส, พุทฺธตฺตายา’’ติ ยาจิํสุฯ

อถ มหาสตฺโต เทวตานํ ปฏิญฺญํ อทตฺวาว กาลทีปเทสกุลชเนตฺติอายุปริจฺเฉทวเสน ปญฺจมหาวิโลกนํ นาม วิโลเกสิฯ ตตฺถ ‘‘กาโล นุ โข, อกาโล นุ โข’’ติ ปฐมํ กาลํ วิโลเกสิฯ ตตฺถ วสฺสสตสหสฺสโต อุทฺธํ วฑฺฒิตอายุกาโล กาโล นาม น โหติฯ กสฺมา? ตทา หิ สตฺตานํ ชาติชรามรณานิ น ปญฺญายนฺติฯ พุทฺธานญฺจ ธมฺมเทสนา ติลกฺขณมุตฺตา นาม นตฺถิฯ เตสํ ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ กเถนฺตานํ ‘‘กิํ นาเมตํ กเถนฺตี’’ติ เนว โสตพฺพํ น สทฺธาตพฺพํ มญฺญนฺติ, ตโต อภิสมโย น โหติ, ตสฺมิํ อสติ อนิยฺยานิกํ สาสนํ โหติฯ ตสฺมา โส อกาโลฯ วสฺสสตโต อูนอายุกาโลปิ กาโล นาม น โหติฯ